ข้อควรรู้ก่อนสร้าง สนามหญ้าหน้าบ้าน สนามหญ้าหน้าบ้านเป็นส่วนเติมเต็มให้บ้านดูเป็นบ้านมากขึ้นอีกมาก ยิ่งหากเป็นสนามหญ้าที่เขียวขจีมองสดชื่น ก็จะเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดจุดหนึ่งของบ้านเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะถ้าตอนเช้าๆได้มีโอกาสมาเดินเล่นที่สนาม คงเป็นเช้าที่ให้ความรู้สึกดีสุดๆไปเลยเนอะ แล้วก็ถ้าคุณเป็นคนน่าอิจฉาที่มีสนามหญ้าอยู่ในบ้านแล้ว หรือกำลังคิดจะทำสนามหญ้าในบ้าน แต่ว่ายังไม่ค่อยรู้วิธีดูแลสนามหญ้าให้สวยสดชื่นเท่าที่ควร สวนดอกไม้ เชียงใหม่
ข้อควรรู้ก่อนสร้าง สนามหญ้าหน้าบ้าน
กว่าบ้านสักหลังจะมีสนามหญ้าสีเขียวชอุ่มที่มองสดชื่นไปด้วยความเป็นธรรมชาติอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะแม้ขาดการดูแลหรือจัดการผิดแนวทาง ก็อาจทำให้ต้นหญ้าไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างสวยงาม แต่ว่าหากแย่กว่านั้นก็อาจทำให้ต้นหญ้าตายตั้งแต่รากยังไม่หยั่งลงดิน หากปัญหาทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่คุณกังวลใจและไม่กล้าปลูกหญ้าในสวนของบ้าน
เลือกชนิดต้นหญ้าให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม – ข้อควรรู้ก่อนสร้าง สนามหญ้าหน้าบ้าน
ก่อนการปลูกหญ้าในสวนควรเริ่มตั้งแต่การศึกษาเนื้อหาเกี่ยวกับต้นหญ้าที่จะเอามาปลูกในสวน โดยควรสำรวจพื้นที่รอบบ้านให้แน่ใจว่าภาวะพื้นที่ของบ้านเป็นดินประเภทใด แล้วก็เหมาะสำหรับการปลูกหญ้าชนิดใดเยอะที่สุด เพื่อสนามหญ้าของบ้านเป็นพื้นที่สีเขียวที่สวยงามและอยู่คู่มุมสวนของบ้านได้ยาวนานโดยไม่ต้องคอยปลูกใหม่ให้เปลืองงบประมาณ ซึ่งต้นหญ้าที่นิยมนำมาใช้ในการจัดสวนทั่วไปมีอยู่ 4 สายพันธุ์ ได้แก่
– หญ้านวลน้อย เป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทย เนื่องจากฯลฯหญ้าที่ถูกใจแสงแดดจัด และก็ทนต่อการเหยีบย่ำได้ดี ทั้งยังสามารถดูแลง่าย และปลูกได้กับทุกสภาพดิน
– หญ้าญี่ปุ่น ฯลฯหญ้าที่มีใบขนาดเรียวเล็กละเอียด มีสีเขียวเข้มสวยงาม และก็ชอบขึ้นกับรวมกันอย่างหนาแน่น ทำให้สนามหญ้าของบ้านสวยงามและก็มองเขียวชอุ่ม แม้จะทนต่อการเหยีบย่ำได้ดี แม้กระนั้นเป็นหญ้าที่ต้องการแสงแดดรำไร รวมทั้งต้องรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
– หญ้ามาเลเซีย สำหรับมุมสวนของบ้านที่มีบรรยากาศร่มรื่นและไม่ได้พบเจอกับแสงแดดจัดจ้า ก็สามารถเลือกปลูกต้นหญ้าสายพันธุ์มาเลเซียได้ตามความชื่นชอบ เพราะว่าฯลฯหญ้าที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่ร่ม หรือในที่มีแสงแดดรำไร โดยควรหมั่นรดน้ำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
– หญ้าเบอร์มิวด้าหรือหญ้าแพรก เป็นต้นหญ้าซึ่งสามารถทนต่อการเหยียบย่ำได้ดี เพราะมีความแข็งแรงและสามารถฟื้นตัวได้รวดเร็ว ทนต่อแสงแดดจัดแล้วก็ความแห้งแล้งในเวลานานได้ หรือถ้าเกิดมีน้ำขังบนหน้าดิน ต้นหญ้าสายพันธุ์นี้ก็ทนทานได้ดี ก็เลยนิยมนำมาใช้ปลูกกลางแจ้งมากที่สุด
รดน้ำอย่างถูกวิธี – ข้อควรรู้ก่อนสร้าง สนามหญ้าหน้าบ้าน
การปลูกต้นหญ้าให้เจริญเติบโตได้ดีควรมีการรดน้ำอย่างถูกวิธี โดยขณะที่เหมาะสมกับการรดน้ำเป็นเวลาเช้าที่แสงแดดยังไม่จัด เพื่อต้นหญ้าได้รับสารอาหารจากการรดน้ำแล้วก็นำไปเสริมสร้างการเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในแต่ละครั้งควรรดน้ำอย่างเพียงพอ แต่ว่าสำหรับต้นหญ้าที่เพิ่งจะปลูกใหม่ แนะนำให้รดน้ำวันละ 2-3 ครั้ง โดยรดน้ำติดต่อกันราว 10 วัน เพื่อต้นหญ้าที่เพิ่งปลูกใหม่ในสวนสามารถฟื้นได้ดี และก็พร้อมสำหรับการเติบโตต่อไป read more : homegarden.sale
บำรุงต้นหญ้าหลังการปลูกให้เติบโต
หลังจากปลูกต้นหญ้าในสวนจนสามารถหยั่งรากลงดินได้ดีแล้ว ครั้งนี้ก็มาถึงขั้นตอนการดูแลต้นหญ้าให้เจริญเติบโตรวมทั้งมีความสวยงามอยู่เสมอด้วยการให้อาหารบำรุงดิน โดยในแต่ละเดือนควรมีการใส่ปุ๋ยสำหรับต้นหญ้าเดือนละครั้ง แล้วก็หลังจากใส่ปุ๋ยควรมีการรดน้ำจนชุ่ม เพื่อปุ๋ยละลายตัวลงดินแล้วต้นไม้จะดูดซับสารอาหารเหล่านั้นเพื่อนำไปใช้ต่อ
ตัดแต่งต้นหญ้าให้สวยงาม
หลังจากปลูกต้นหญ้าไปสักระยะจะเริ่มมีวัชพืชขึ้นแซมมาในรอบๆสวน ซึ่งอาจทำให้เกิดการแย่งสารอาหารจากต้นหญ้าที่ปลูกไว้ แนะนำให้ถอนกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ และก็จะต้องมีการตัดแต่งต้นหญ้าที่เจริญเติบโตให้มีความยาวของใบที่เหมาะสม โดยควรเว้นระยะความสูงของต้นหญ้าไว้ประมาณ 1 นิ้ว และควรจะตัดแต่งสวนอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อมุมสวนไม่รกรุงรังและมีสภาพเสื่อมโทรมเกินเยียวยา
3 ขั้นตอนจัดสนามหญ้าหน้าบ้าน เพิ่มความสดชื่น
บ้านในฝันที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีอาจไม่อาจจะสมบูรณ์ได้แม้ขาดสนามหน้าบ้านช่วยเพิ่มความสดชื่นได้เท่าทวี โดยเฉพาะตอนก่อนฝนตกที่มีกลิ่นต้นหญ้าพัดผ่านตามสายลมให้สัมผัสธรรมชาติ หรือจะเป็นพื้นที่กิจกรรมสำหรับสมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างอบอุ่นในสวน
การสร้างสนามหญ้าหน้าบ้านไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่เรียนรู้ทำความเข้าใจเล็กน้อย ก่อนมอบหน้าที่ให้คนสวนหรือจะเป็นผู้ดูแลรักษาสนามหญ้าด้วยตัวเองก็ย่อมได้ ด้วยวิธีการดังนี้
เลือกหญ้าที่ใช่
หญ้าหลากหลายสายพันธุ์มีความแตกต่างกันในหลายเรื่อง เช่น ความทนทาน การดูแลรักษา ควมสวยงาม และก็ความเหมาะสมกับพื้นที่ โดยส่วนมากในประเทศไทยมีหญ้า 4 ชนิดที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ต้นหญ้านวลน้อย หญ้าญี่ปุ่น หญ้ามาเลเซีย หญ้าเบอร์มิวด้า และหญ้าฟลอริด้า ซึ่งหญ้าแต่ละประเภทนั้นจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มาดูกัน
– หญ้านวลน้อย หญ้าพื้นเมืองของไทย ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยเหตุว่าเป็นหญ้าที่มีความทนทานสูง เหมาะสำหรับการปูเป็นพื้นสนาม เนื่องด้วยถูกใจแสงแดดแล้วก็สามารถขึ้นในพื้นที่กลางแจ้งได้เป็นอย่างดี รวมทั้งดูแลไม่ยาก แค่หมั่นรดน้ำในฤดูร้อน เพื่อไม่ให้ใบเหลืองจากแดดและก็อากาศร้อน
– หญ้าญี่ปุ่น มี 2 ชนิด เป็นต้นว่า ชนิดใบกว้าง จะมีใบราวๆ 4 มม. รวมทั้งชนิดใบกลม ซึ่งได้รับความนิยมในประเทศไทย เพราะใบเล็กและก็ละเอียดกว่า โดยเฉพาะการนำมาใช้จัดสวนแบบญี่ปุ่น เนื่องจากเติบโตช้าอาจจะต้องใช้เวลาเดือนหรือเป็นปี ก็เลยขึ้นเต็มสนาม แม้กระนั้นเมื่อขึ้นแล้วจะคลุมดินอย่างหนาแน่น จนถึงวัชพืชไม่สามารถขึ้นได้ แล้วก็ทนต่อโรคหรือแมลงมากกว่าหญ้าชนิดอื่น รวมทั้งทนต่อการเหยียบย่ำพอควร และไม่ค่อยยืดหยุ่นตัวเหมือนหญ้านวลน้อย ก็แค่ต้องการน้ำมาก ถ้าขาดน้ำเป็นระยะเวลานานจะก่อให้ใบเหลืองทันที รวมทั้งถ้าปล่อยไว้นานไม่ตัดแต่งจะขึ้นกระจุกตัวและลำบากในการตัดแต่งต่อไป
– หญ้ามาเลเซีย ในบางท้องที่อาจจะเรียกหญ้าเห็บหรือต้นหญ้าไผ่ ส่วนมากปลูกในสวนยางพาราภาคใต้ติดกับประเทศมาเลเซีย ก่อนที่จะได้รับความนิยมนำมาปลูกในสวนหน้าบ้าน โดยเป็นหญ้าที่มีใบขนาดใหญ่ที่สุดประมาณ 2-2.5 มม. ถูกใจแดดแบบรำไร ตัวอย่างเช่น ร่มไม้หรือชายคาบ้าน เพียงแต่เป็นหญ้าที่ต้องการน้ำมาก ทำให้ต้องรดน้ำทุกวัน
– หญ้าเบอร์มิวด้า หรือหญ้าแพรก มีสีเขียวสดหากได้รับแสงแดดเต็มที่ ทนต่อความแห้งแล้งแล้วก็ความร้อนได้สูง แค่น้ำค้างก็สามารถเติบโตได้ ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยมากมาย อย่างไรก็ตาม หากอยากให้หญ้าคุณภาพดี พวกเราควรหมั่นรดน้ำให้พอเพียง รวมทั้งอย่าปลูกในที่ร่มหรือตามชายคาบ้าน โดยใส่ปุ๋ยทิ้งระยะเวลาราว 2-3 เดือน รวมถึงระวังการเจริญเติบโตไม่ให้กลายเป็นวัชพืชเข้าไปยังแปลงดอกไม้หรือถนนที่มีรอยแตกให้หญ้าแทรกตัวได้ more info : phuketgarden.live
– หญ้าฟลอริด้า หรือหญ้าทิฟกรีน ซึ่งมักใช้ในสนามกอล์ฟหรือปลูกในสวน เพราะทนต่อการเหยียบย่ำรวมทั้งฟื้นได้เร็ว ให้ความรู้สึกนุ่มเมื่อสัมผัส โดยสามารถเติบโตได้เร็ว และทนต่อความแห้งแล้ง หรือน้ำท่วมได้ดี เพียงต้องปลูกในที่แจ้ง ไม่สามารถปลูกในที่แสงน้อยหรือแดดรำไรได้ รวมทั้งจะต้องหมั่นรดน้ำและระวังการเติบโตไม่ให้กลายเป็นวัชพืช
ดูแลรักษาหญ้าให้เขียวขจี
หากตอนที่ปูหญ้ามีแดดแรงหรืออากาศแห้ง เราควรจะรดน้ำให้ชุ่มในทันทีต่อเนื่องประมาณ 2 อาทิตย์ เพื่อหญ้าตั้งตัว เนื่องมาจากหญ้าเป็นพืชที่ต้องการน้ำสำหรับการเติบโตได้อย่างเต็มที่ โดยเราอาจจะรดน้ำให้เปียกทุกเช้า และก็เว้นมาเป็นช่วงเย็น หรืออาจจะจัดตั้งสปริงเกอร์พ่นน้ำชนิดตั้งเวลาได้ สำหรับรดน้ำเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน พร้อมทั้งบำรุงรักษาด้วยปุ๋ยออแกนิกส์ หรือปุ๋ยชีวภาพที่มีจุลินทรีย์อยู่ข้างใน ซึ่งไม่เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติ
นอกนั้น เราควรหมั่นสังเกตสัญญาณเตือนถึงสิ่งผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นอยู่กับสนามหน้าบ้านของเรา ดังเช่นว่า วัชพืช แล้วก็ศัตรูพืช โดยพยายามไม่ใช้สารเคมีรุนแรงรวมทั้งเลือกใช้ยาฆ่าแมลงที่มีส่วนประกอบของธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและก็สมาชิกในครอบครัว
ที่สำคัญอย่าลืมหมั่นตัดหญ้าเป็นประจำ โดยพยายามตัดหญ้าไม่เกิน 1 ใน 3 ของความยาวต้นหญ้าทั้งหมด เนื่องจากแม้ตัดหญ้าสั้นเกินความจำเป็นอาจจะกระทบทระเทือนถึงรากแล้วก็ทำให้ต้นหญ้าตายได้ แต่ว่าเน้นการเล็มหญ้าอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ พร้อมทั้งปล่อยให้หญ้าที่ตัดเล็มรวมกันบนสนาม เพื่อกลายเป็นปุ๋ยบำรุงหญ้าอีกที ซึ่งทุกครั้งที่ตัดเล็มหญ้า ต้นหญ้าจะผลิตยอดอ่อนออกมาเขียวขจียิ่งขึ้น
สวนหย่อม “หญ้าเทียม” พื้นที่สีเขียวที่คุณสร้างได้ แม้มีเวลาดูแลน้อย
หลายคนใฝ่ฝันต้องการมีสวนหย่อมเป็นมุมพักภายในบ้าน แม้กระนั้นบางครั้งความฝันก็จำต้องถูกพับเก็บไปเพราะว่าเรื่องของเวลา เหตุเพราะวิธีการทำสวนหย่อมต้องใช้ระยะเวลานาน ตั้งแต่การเริ่มต้นจัดสวนไปจนถึงการดูแล ทำให้ใครหลายคนถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่ม แต่ว่านั่นอาจไม่คือปัญหาหากลองปรับมุมมอง
เปลี่ยนวัสดุที่ใช้นิดหน่อยก็ได้สวนหย่อมแล้ว โดยวัสดุที่ช่วยเนรมิตสวนหย่อมให้กับคนที่มีเวลาน้อยได้เป็น“หญ้าเทียม” ในวันนี้ พวกเราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหญ้าเทียมมาฝากตั้งแต่ เคล็ดลับการจัดสวนหย่อมด้วยหญ้าเทียม, วิธีการเลือกหญ้าเทียม จนไปถึงเทคนิคการทำความสะอาด จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
ทำไมหญ้าเทียมถึงตอบโจทย์คนมีเวลาน้อย
สิ่งที่ทำให้หญ้าเทียมเหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย เพราะว่าตัวหญ้าเทียมนั้นไม่ได้ต้องการ การดูแลรักษาเทียบเท่าหญ้าจริง คุณแทบไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย แค่เพียงการปรับพื้นที่เล็กน้อยเพื่อดำเนินการติดตั้งเบื้องต้น ฉีดน้ำตอนสกปรก และรักษานานๆครั้ง หญ้าเทียมก็สามารถอยู่กับเราได้นานหลายปี
เปรียบเทียบกับหญ้าจริงที่ต้องใช้ระยะเวลานานในการถมดิน การปลูก ตลอดจนถึงการดูแล จัดการถอนวัชพืชรวมทั้งการตกแต่ง ถือว่าตัวหญ้าเทียมนั้นตอบโจทย์กว่ากันมากนัก
เรื่องน่ารู้ก่อนเลือกซื้อ”หญ้าเทียม”
คำนวณการใช้งานได้ง่ายๆจากคนในครอบครัว
การเลือกหญ้าเทียมสามารถคำนวณได้จากจำนวนการใช้แรงงาน เริ่มจากตรวจสอบจำนวนสมาชิกในบ้านกับกิจกรรมที่ทำบนสวนหย่อม อาทิเช่น บ้านที่มีปริมาณสมาชิกมากมายรวมทั้งต้องเดินผ่านหญ้าเทียมตลอด การเลือกหญ้าเทียมควรเลือกแบบที่มีความหนาแน่น เพื่อรองรับน้ำหนักจากการใช้งาน หรือ บ้านที่เลี้ยงสุนัข แน่ๆว่าน้องหมาชอบวิ่งเล่น ถูกใจขุดดิน คุณอาจควรต้องมองหาหญ้าที่มีความสูงมากกว่าปกติสักเล็กน้อยเพื่อรองรับพฤติกรรมของน้องหมา ฯลฯ
คาดคะเนความสูงของหญ้าเทียม
ความสูงของหญ้าเทียมที่จะอยู่ระหว่าง 1-5 ซม. โดยจะแบ่งตามประเภทการใช้งานดังต่อไปนี้
- 1-4 ซม. เหมาะสำหรับการใช้ในสวนหย่อมทั่วๆไป
- 2 ซม.ขึ้นไป เหมาะกับการใช้ในสนามเด็กเล่น
- 5 ซม. เหมาะกับสนามฟุตบอลรวมทั้งพื้นที่เล่นของสุนัข
การเลือกหญ้าเทียมที่มีความสูงที่เหมาะสม จะช่วยให้หญ้าเทียมได้โอกาสเสียหายน้อยลง แล้วก็อยู่กับเราได้นานขึ้น
เลือกหญ้าเทียมที่ทนทานต่อแดด
ข้อจำกัดของหญ้าเทียมเป็นแดด เพราะหญ้าเทียมบางยี่ห้อความทนทานต่อแดดต่ำ ทำให้เมื่อผ่านระยะเวลาไปนานๆโอกาสที่หญ้าเทียมจะเสื่อมสภาพ หรือสีของจะหญ้าเปลี่ยนก็เลยเกิดขึ้นได้ ดังนั้นในการเลือกหญ้าเทียมควรจะมองส่วนผสมว่ามีสาร UV-Stabilizer หรือไม่ เนื่องจากสารดังกล่าวเป็นตัวช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของหญ้าเทียมจากความร้อนและก็แดด ส่งผลให้ช่วยยืดอายุการใช้งานของหญ้าเทียมเพิ่มมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม : รีวิวที่พัก Payanan Luxury Pool Villa, แนะนำ รูปปั้นกวาง แต่งสวน, แนะนำโพสประกาศ Villas in Phuket for rent